10. ความเกี่ยวโยงระหว่างร่างกายและจิตใจ (The Body/Mind Connection)
วิทยาศาสตร์ทางการแพทย์ยังไม่สามารถให้คำตอบอย่างแน่ชัดถึงความเกี่ยวโยงระหว่างร่างกายและจิตใจ หนึ่งในตัวอย่างที่เห็นได้ชัดได้แก่ การให้ยาหลอก (placebo) แก่คนไข้ ซึ่งยาหลอกนี้จะไม่มีผลในทางยาแต่อย่างใด แต่จะมีผลทางด้านจิตวิทยา ซึ่งคนไข้ที่ได้รับยาจะเชื่อว่ายาที่ได้รับนี้จะช่วยบรรเทาหรือรักษาอาการเจ็บป่วยได้ ซึ่งก็ยังไม่มีกระบวนการใดในทางการแพทย์สามารถอธิบายถึงสิ่งนี้ได้อย่างชัดเจน
9. พลังจิตและการรับรู้ด้วยสัมผัสพิเศษ (Psychic powers and extra-sensory perception (ESP))
พลังจิตและการรับรู้ด้วยสัมผัสพิเศษถูกจัดอยู่ใน 10 อันดับเรื่องราวที่ไม่สามารถให้คำอธิบายได้ก็เนื่องมาจากความเชื่อในเรื่องนี้ที่แพร่หลายออกไปทั่ว การหยั่งรู้ที่เกิดขึ้นในใจ (intuition) ก็มีหลายคนที่จัดให้เรื่องนี้อยู่ในเรื่องของพลังจิต ซึ่งได้มีนักวิทยาศาสตร์หลายคนได้ทดสอบทางวิทยาศาสตร์กับผู้ที่อ้างตัวว่าตนเองมีพลังจิต ซึ่งให้ยังไม่ค่อยได้ผลที่แน่ชัดเท่าที่ควร แต่ก็มีหลายพวกที่แย้งว่าพลังจิตไม่สามารถพิสูจน์ได้ด้วยกระบวนการทางวิทยาศาตร์
8. ประสบการณ์เฉียดตายและชีวิตหลังความตาย (Near-Death Experiences and Life After Death)
มีหลายคนได้ผ่านประสบการณ์เฉียดตายและได้เล่าประสบการณ์ให้ฟังเป็นต้นว่า ขณะนั้นรู้สึกตัวว่าเหมือนอยู่ในอุโมงค์ๆ หนึ่ง หรืออยู่ท่ามกลางแสงสว่างจ้า หรือรู้สึกว่าตัวเองถูกประสานรวมตัวเข้ากับคนที่เขารัก หรือรู้สึกสัมผัสถึงความสงบ เหล่านี้เป็นต้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้อาจจะบ่งบอกถึงการมีอยู่จริงของการออกจากหลุมฝังศพ (beyond the grave) ประสบการณ์เหล่านี้เป็นเรื่องที่ลึกซึ้ง ซึ่งยังไม่มีใครที่สามารถกลับมาพร้อมกับข้อพิสูจน์หรือข้อมูลยืนยันเกี่ยวกับ “การออกจากหลุมฝังศพ” (beyond the grave) นี้ได้เลย ผู้ที่มีความสนใจและสงสัยในเรื่องนี้แนะว่าประสบการณ์เหล่านี้สามารถให้คำอธิบายได้ในรูปของธรรมชาติและการเกิดภาพหลอนที่คาดคะเนได้อันเนื่องจากจากความบอบช้ำของสมอง ถึงอย่างไรก็ตามก็ยังไม่มีวิธีที่จะสามารถรู้สาเหตุของประสบการณ์เฉียดตายเหล่านี้ได้อย่างแน่ชัด บางทีการที่เราจะสามารถรู้ถึงสาเหตุของเรื่องนี้ได้อย่างแน่ชัด เราก็อาจจะต้องมีความสามารถในการที่จะมองเห็นโลกอีกโลกหนึ่งได้
7. ยูเอฟโอ (UFO)
เป็นเรื่องที่ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ยูเอฟโอ (UFO - Unidentified Flying Objects) มีจริงหรือไม่ เนื่องจากมีผู้คนจำนวนมากสามารถพบเห็นวัตถุบินลึกลับบนฝากฟ้าที่ไม่สามารถระบุได้ว่ามันคืออะไร ซึ่งก็มีตั้งแต่เครื่องบินไปจนถึงดาวตก สิ่งสำคัญอีกอย่างก็คือไม่ว่าวัตถุหรือแสงเหล่านี้จะเป็นยานอาวกาศของมนุษย์ต่างดาวหรือไม่ ด้วยการผ่านระยะทางอันน่าเหลือเชื่อและพยายามที่จะเดินทางมายังโลกโดยข้ามผ่านจักรวาลมา ซึ่งเป็นภาพที่ไม่น่าที่จะเป็นไปได้ นอกจากนี้ ในขณะที่การสืบสวนอย่างตั้งใจได้เปิดเผยถึงกรณีรายงานการพบเห็น ทำให้เหตุการณ์ของยูเอฟโอจะยังเป็นกรณีที่ไม่สามารถอธิบายได้อยู่เสมอๆ
6. เดจาวู (Déjà vu)
เดจาวู (Déjà vu) เป็นวลีภาษาฝรั่งเศลแปลว่า “เคยได้พบเห็นมาแล้ว” (already seen) ซึ่งเกี่ยวข้องกับความรู้สึกอันน่าพิศวงว่าได้พบกับประสบการณ์ในเหตุการณ์หนึ่งๆ ซึ่งเหมือนกับว่าเคยเจอมาแล้ว อย่างเช่นมีหญิงคนหนึ่งที่เดินทางอยู่ในต่างประเทศที่เธอไม่เคยเดินทางมาก่อน แต่ต้องรู้สึกขนลุกอันเกิดจากเหมือนว่ารู้จักคุ้นเคยกับสถานที่นั้นๆ อย่างดี บางคนถือว่าเดจาวู (Déjà vu) เป็นหนึ่งในประสบการณ์ในด้านจิต หรือบ้างว่าเป็นการแทรกเข้ามาชั่วขณะของชีวิตในชาติที่แล้วมา ดังเช่นการหยั่งรู้ที่เกิดขึ้นในใจ (intuition) เมื่อทำการสืบค้นต่อไปก็ทำให้สามารถให้คำอธิบายได้ด้วยหลักของจิตวิทยามนุษย์ แต่ในที่สุดแล้วก็ยังไม่สามารถที่จะอธิบายได้ถึงสาเหตุและธรรมชาติของการเกิดของปรากฎการณ์ชนิดนี้ได้
5. ผี (Ghosts)
ตั้งแต่ละครของวิลเลี่ยม เชคสเปียร์ (William Shakespeare) เรื่องเมคเบธ (MacBeth) มาจนถึงรายการละครซีรี่ส์ของ NBC เรื่อง “มีเดี้ยม (Medium ~ คนทรงผี)” วิญญาณของบรรดาเหล่าคนตาย ก็ปรากฎพบเห็นได้ทั่วไปในวัฒนธรรมและประเพณีความเชื่อของผู้คนหลากหลาย มีคนหลายคนได้แจ้งการพบเห็นผีในลักษณะทั้งที่เป็นเงาร่างและคนรักของพวกเขาที่จากไปแล้ว แม้ว่าการพิสูจน์ให้แน่ชัดว่าผีมีจริงยังคงเป็นเรื่องที่ยากยิ่ง แต่ผู้คนที่พบเห็นก็ยังคงที่จะรายงานถึงการพบเห็นด้วยตาตนเอง รูปภาพ หรือแม้แต่การสื่อสารกับผี ผู้ที่ศึกษาค้นคว้าเรื่องผีหวังกันไว้ว่าสักวันหนึ่งการที่สามารถพิสูจน์ได้ว่ามนุษย์เรานั้นสามารถติดต่อกับคนที่ตายไปแล้วได้นั้น จะทำให้เราได้รับคำตอบที่สมบูรณ์จากเรื่องราวอันลึกลับนี้
